ขนน้องหมา ขนน้องแมว จะเข้าปอดคนได้จริงๆ เหรอ???

เราอาจเคยได้ยินข่าวที่บอกว่า มีขนหมา ขนแมวเข้าปอดคน
และทำให้เป็นโรคต่าง ๆ จนถึงขั้นเสียชีวิต
วันนี้หมอตี๋จะมาไขข้อข้องใจว่า ขนสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรานั้น
สามารถเข้าปอดคนได้จริง ๆ หรือไม่ มาดูคำตอบกันจย๊าาา…

คำตอบก็คือ เป็นไปไม่ได้นะครับ
ที่ขนหมาขนแมวจะสามารถเข้าปอดของคนได้

เพราะฉะนั้นอย่านำเด็ก ๆ ไปปล่อยวัด หรือยกให้คนอื่น
เพียงเพราะความกังวลเรื่องขนของพวกเขาเลยนะครับ

เรามาดูกันครับว่าทำไม
ขนของมะหมา มะแมว ทำไมถึงไม่สามารถเข้าปอดคนได้

สิ่งที่จะลงไปในปอดคนได้
ต้องมีขนาดเล็กมากถึง 3-5 ไมครอน
และสิ่งนั้นต้องมีขนาดเล็กกว่าเม็ดเลือดแดง
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ขนสัตว์เลี้ยงจะเข้าไปสู่ปอดได้
เพราะขนสัตว์ใหญ่กว่าเม็ดเลือดแดงกว่าหลายเท่าตัว

และทางการแพทย์เองก็ยังไม่เคยตรวจพบหลักฐาน
ว่าพบเจอขนสัตว์เลี้ยงเข้าไปอยู่ในปอดของคน
ส่วนข่าวที่ออกมานั่นน่าจะเป็นการเข้าใจผิด
จนเกิดกระแสต่าง ๆ มากมายนะครับ

โดยปกติร่างกายคนเรา
จะมีระบบป้องกันตนเองอัตโนมัติ
เช่น หากมีอะไรเข้าไปในตา ระบบต่อมน้ำตาก็จะเร่งน้ำตา
มาชะล้างสิ่งแปลกปลอมนั้นออกไป

ในระบบทางเดินหายใจก็เหมือนกันครับ
ระบบป้องกันจะเริ่มจากจมูก
ที่มีขนจมูกและเมือก ที่คอยดับจับสิ่งต่าง ๆ
ร่วมกับการขับออกมากจากร่างกายด้วยการจาม นั่นเองครับ

จริง ๆ แล้วสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ที่เกิดจากมะหมา มะแมว
ไม่ใช่เส้นขน แต่เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในตัวสัตว์เลี้ยง
สารนั่นคือ โปรตีนที่อยู่ในเศษขี้ไคล น้ำลายและปัสสาวะ ต่างหากครับ

สารนั่นจะทำให้เราเกิดอาการแพ้
โดยบางคนจะแสดงอาการแพ้ออกมาเช่น
การไอ คันตา มีน้ำตาไหลออกมา
มีน้ำมูกไหล คัดจมูก หายใจลำบาก
เป็นหอบหืดและผื่นคัน ตามใบหน้า คอ แขนขาและลำตัว
ซึ่งอาการจะกำเริบหลังสัมผัสสัตว์เลี้ยง
ประมาณ 30 นาที แต่บางคนอาจแสดงอาการไปแล้วในเวลา
หลายชั่วโมง ทั้งนี้ขี้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของร่างกาย และความรุนแรงในการแพ้

ถ้าเกิดอาการตามที่บอกมา
ควรรีบหาหมอ เพื่อหาทางรักษา และหาวิธีแก้ไข
เช่น อาบน้ำให้มะหมา มะแมว สม่ำเสมอ
รักษาความสะอาดให้สัตว์เลี้ยง รวมถึงตัวเราเอง
และทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อต่างๆ
เพียงแค่นี้การเลี้ยงสัตว์ในบ้านก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

การนำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยนั้น
ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดนะครับ
เพราะพวกเขาก็มีหัวใจ
และในชีวิตพวกเขามีแต่เราเท่านั้นครับ