มะแมวกับปลา ของคู่กันจริงเหรอ???

เหล่าทาสแมวเคยสงสัยกันบ้างไหมจ๊ะ ว่าจริง ๆ แล้วมะแมวของเรานั้นหลงรักปลาจริง ๆ หรือเปล่า? โดยเฉพาะปลาทู ที่ถึงกับตั้งชื่อให้ว่า “ปลาทูแมว” เลยก็มี และดูเหมือนว่ามะแมวก็จะชอบกินซะด้วยสินะจ๊ะ
ปลาเลยกลายเป็นอาหารโปรดของมะแมวที่เหล่าทาสแมวคิดถึงอันดับแรก ๆ ทันที ถ้าไม่นับอาหารสำเร็จรูปน่ะนะ

ซึ่งจริง ๆ ถ้าพูดถึงธรรมชาติของมะแมวแล้ว มะแมวเป็นสัตว์กินเนื้อจ้ะเพราะบรรพบุรุษของมะแมวเป็นแมวป่า ที่เป็นสัตว์นักล่า แล้วก็ล่าแบบไม่จำกัดชนิดของเนื้อสัตว์ซะด้วย แต่สัตว์ที่ล่าได้ส่วนมาเป็นสัตว์เล็ก กระต่ายป่า กบ หนู กิ้งก่า หรือนกทั้งนั้น แถมแมวป่า ยังว่ายน้ำเก่ง และสามารถดำน้ำลงไปจับปลาได้ด้วยนะจ๊ะ ในสมัยก่อนนั้น มนุษย์จึงเริ่มเลี้ยงมะแมว เพื่อให้แมวนั้นมาล่าหนู แถมยังมีบันทึกไว้อีกด้วยว่า มีการนำมะแมวมาลงเรือ เพื่อมาจับหนูในเรือ เหล่าเจ้าแมวเลยน่าจะเริ่มได้กินปลาเพราะปลาเป็นอาหารที่หาได้ง่ายตอนไปออกทะเลไงล่ะ ! ส่วนในประเทศไทยแลนด์แดนบ้านเรา ปลาเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายม๊าก โดยเฉพาะปลาทู ทำให้กลายเป็นความเชื่อที่ว่า ของโปรดมะแมวคือปลานั่นเองจ้ะ

มะแมวกินปลาดิบได้มั้ย ???

ข้อดีของการกินปลาดิบนั้น เหล่าทาสแมวคงรู้กันดีว่า ปลาดิบมีคุณค่าทางอาหารมากว่าปลาสุก เพราะทั้งมีรสชาติหวาน เนื้อนุ่ม และสารอาหารจากปลายังอยู่ครบถ้วน (พูดแล้วแนนนี่น้ำลายสอมาเลย ฮิฮิ)โดยเฉพาะยังมีกลิ่นคาวของปลา จึงทำให้มะแมวชอบและมีความฟินกว่าเมื่อได้กินปลาดิบ

แต่ข้อเสียของการกินปลาดิบก็คงไม่พ้นเรื่องความสะอาดและพยาธินี่แหละจ้ะ รวมถึงขั้นตอนการเตรียมปลาที่เยอะแยะยุ่งยากด้วย เพราะถ้าหากไม่สะอาดหรือปลาไม่สดก็จะทำให้มะแมวนั้นท้องเสียได้เลยล่ะจ้ะ ซึ่งเชื้อโรคที่ทำให้มะแมวท้องเสียแบ่งเป็น 3 เชื้อที่สำคัญคือ

– เชื้อแบคทีเรียโคลิฟอร์ม หรือ อี.โคไล (Coliform / E.coli)
– เชื้อซัลโมเนลล่า (Salmonella spp) และ
– เชื้อวิบริโอ (Vibrio spp)

โดยทั้ง 3 เชื้อนี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรงได้จ้ะ เมื่อมะแมวได้รับเชื้อพวกนี้เข้าไป ก็จะทำให้ท้องเสีย ปวดท้อง อาเจียน และเมื่อน้องท้องเสียเยอะ ๆ ก็จะทำให้เข้าสู่สภาวะขาดน้ำ ตัวแห้งน้ำ ซึม และอ่อนเพลียลง บางตัวอาจมีไข้ด้วยนะข๊ะ
หากพาไปรักษาไม่ทันอาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้เลยล่ะจ้ะ T^T

การที่ทาสแมวจะให้ปลาดิบกับมะแมวกินนั้น สามารถให้กินได้นะจ๊ะ แต่ต้องระวังเรื่องความสะอาด และก็ไม่ควรให้กินในปริมาณมากเกินไป เหล่าทาสควรจะควรให้อาหารที่หลากหลายกับมะแมวมากขึ้นด้วย เช่น อาหารสำเร็จรูป (เม็ด,เปียก) สลับกันไป เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนและจำเป็นต่อมะแมวของเราจ้ะ เพราะร่างกายมะแมวนั้นต้องการสารอาหารอื่น ๆ เกือบ 50 ชนิด เช่น วิตามิน เกลือแร่ โดยจะได้รับผ่านจากเหยื่อที่กินเมล็ดและพืชต่าง ๆ (บอกแล้วว่าเราเป็นพวกกินเนื้อ แต่ก็ต้องสมดุลชีวิตหน่อยนะจ๊ะ แฮ่ !) ดังนั้น จึงไม่ควรให้กินปลาอย่างเดียวเพราะจะทำให้มะแมวขาดสารอาหารและเป็นโรคอ้วนได้ง่ายจ้ะ

มะแมวกับก้างปลา

ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่เราเคยได้ยินกันมาว่า มะแมวสามารถกินก้างปลาได้สบาย ๆ มนุษย์เลยเข้าใจกันไปเองว่า ก้างปลาก็เป็นของโปรดแมวเช่นกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ก้างปลาอาจทำให้เกิดอันตรายกับแมวได้นะจ๊ะ เช่น ทำให้ติดคอ ทำให้เกิดแผลในทางเดินอาหาร ตามที่เราเห็นข่าวก็มีบ่อย ๆ จ้ะ จริงอยู่ว่าเหล่ามะแมวนั้นมีทักษะในการแทะ และสามารถย่อยก้างปลาหรือกระดูกเล็ก ๆ
ได้ แต่เราก็ไม่ควรเสี่ยงให้ก้างปลาแก่มะแมวนะจ๊ะ เพราะแมวบางตัวอาจเคี้ยวไม่ละเอียดหรือไม่เคยกินก้างปลามาก่อน หากเกิดกรณีที่มะแมวเผลอกินกางปลาแล้วติดคอ อย่า!!! เอาข้าวเหนียวให้น้องกินเด็ดขาด นั่นแมวนะจ๊ะไม่ใช่คน T^T ต้องรีบพาน้องไปหาคุณหมอโดยด่วนดีกว่าจ้ะะะ ก่อนที่ข้าวเหนียวจะติดคอน้องไปอีกอย่างนะะ

แต่ถ้าเหล่าทาสอยากเอาใจเจ้านายของเราจริง ๆ ก็ควรหาขนมสำเร็จรูปตามท้องตลาดมาให้มะแมวกินจะดีกว่าจ้ะ แต่ก็ควรจะศึกษาให้ดีก่อนว่า เหมาะกับมะแมวเราหรือไม่ เช่น มะแมวเราเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ทานได้ไหมนะ เคี้ยวได้แค่ไหนอย่างไร เพราะถ้าเราอยากให้มะแมวอยู่กับเราไปนาน ๆ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตเหล่ามะแมวเลยล่ะจ้ะ เพราะเหล่าแมวเค้าพูดและบอกให้เราเข้าใจเป็นภาษาเราไม่ได้ เราต้องดูแลเอาใจใส่และสังเกตน้องให้ดีนะจ๊ะ จุ๊บจุ๊บ