ทำไมมะหมามะแมวถึงเป็นโรคไต???

จากข่าวที่เราเห็นตามสื่อที่ผ่านมา เราจะพบว่ามะหมาและมะแมวป่วยเป็นโรคไตกันเยอะมากนะครับ โดยสาเหตุส่วนใหญ่ตามข่าวจะบอกว่าเป็นเพราะอาหารสำเร็จรูปหลายยี่ห้อ หรือเป็นเพราะมะหมามะแมวกินอาหารที่มีโปรตีนสูง คนส่วนใหญ่จึงเข้าใจกันว่า เป็นเพราะอาหารและการกินแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคไตนี้มีหลายสาเหตุและหลายปัจจัยนะครับ เช่น อายุที่มาก เฉลี่ย 7 ปีขึ้นไป, สายพันธุ์, การติดเชื้อเรื้อรัง, ความผิดปกติของไตตั้งแต่เกิด, เคยป่วยเป็นโรคนิ่วหรือมะเร็งมาก่อน, พฤติกรรมของมะหมามะแมวเช่น กินน้ำน้อย ชอบเลียกินน้ำที่สกปรกจากพื้น เป็นต้น

นอกจากนี้ มะหมามะแมวที่เลี้ยงนอกบ้านยังมีความเสี่ยงเป็นโรคไตได้มากกว่าตัวที่เลี้ยงอยู่ในบ้าน เพราะน้องอาจไปกินน้ำที่ไม่สะอาดบ่อยๆ เช่น กินน้ำในกระถางต้นไม้ ตามแหล่งน้ำขังทั่วไป และที่น่าอันตรายที่สุดคือ เผลอไปกินน้ำที่มีสารพิษ เช่นจากยาฆ่าแมลง ปุ๋ย หรือสารเคมีประเภท “น้ำยาหล่อเย็น” (Anti-freeze) ที่ใช้ในรถหรือเครื่องปรับอากาศ ถ้าสารนี้เข้าสู่ร่างกายเมื่อไหร่ โอกาสที่จะทำให้เป็นไตวายเฉียบพลันมีสูงมากครับ

ตามที่กล่าวมาจะเห็นว่าโรคไตในมะหมามะแมวมีหลายสาเหตุ และหลายปัจจัย เราจึงควรพามะหมามะแมวไปตรวจสุขภาพประจำปีและคอยสังเกตพฤติกรรมให้ดีๆ นะครับ

อาการที่บอกว่ามะหมามะแมวเสี่ยงป่วยเป็นโรคไต

-น้ำหนักตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น จากอ้วนกลายเป็นผอมภายในเวลาไม่นาน

– กินอาหารน้อยลงแต่กินน้ำเยอะและบ่อยขึ้น
– อาเจียนบ่อย มีท้องเสีย และถ่ายเหลว
– มะหมามะแมวเลียแถวบริเวณอวัยวะขับถ่ายบ่อยขึ้น
– การควบคุมการขับถ่ายของน้องแย่ลง ทำให้น้องฉี่ไม่เป็นที่เป็นทาง
– กลิ่นปากและลมหายใจเหม็นมากกว่าปกติ และในปากเป็นแผล
– การขับถ่ายน้อยลง มีอาการปวดเบ่ง หรือไม่ถ่ายอุจจาระเป็นเวลาหลายวัน
– ฉี่น้องมีสีขุ่นหรือเป็นเลือด มีอาการปวดตอนเบ่ง

หากมะหมามะแมวมีอาการเหล่านี้ แสดงว่าน้องเริ่มมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคไต เจ้าของและทาสทั้งหลายอย่านิ่งนอนใจ ควรรีบพาน้องไปพบคุณหมอเพื่อตรวจให้เร็วที่สุดเลยนะครับ

• 

การตรวจหาสาเหตุของโรคไต

เมื่อดูจากอาการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทำให้เรารู้ว่ามะหมามะแมวของเราเสี่ยงเป็นโรคไตแน่นอน ก็ให้รีบพามะหมามะแมวไปหาสัตวแพทย์เลยครับ จากนั้นคุณหมอจะเริ่มซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นว่าลักษณะกายภาพเป็นอย่างไรเช่น ดูซูบผอมลงมั้ย มีภาวะการขาดน้ำหรือเปล่า ส่วนตรงนี้เป็นส่วนที่เราเองต้องให้ข้อมูลคุณหมอให้มากที่สุด เพื่อที่คุณหมอจะได้นำไปวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคให้ง่ายและแม่นยำขึ้นนะครับ จากนั้นจึงขอเจาะเลือด วัดความดัน และเก็บตัวอย่างปัสสาวะของน้องมะหมามะแมว เพื่อนำไปตรวจสอบหาสาเหตุ, และอาจมีการขอ X-ray เพื่อดูขนาดของไต หรืออาจตรวจ Ultrasound เพื่อดูความผิดปกติบริเวณผิดเนื้อไตเพื่อประกอบการวินิจฉันด้วยนะครับ หรือถ้าจำเป็นจริงๆ อาจต้องขอเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อหาความรุนแรงว่าอยู่ในระดับไหนแล้วด้วยครับ

แต่ทั้งนี้ก็ไม่ต้องกลัวไป หมอตี๋แนะนำจริง ๆ ครับว่าให้มาหาหมอแล้วคุยกับหมอนะครับ จะได้ป้องกัน หรือตามรักษาอาการที่จะทำให้เป็นโรคไต ทั้งขั้นเบื้องต้น หรือเพื่อป้องกันไม่ให้เลื่อนไปเป็นขั้นที่รุนแรงกว่า จะดีกว่าปล่อยทิ้งไว้จนน้อง ๆ เป็นเรื้อรังนะครับ

เอาล่ะครับ สำหรับสัปดาห์นี้ ทุกคนก็ได้รับทราบถึงอาการและวิธีการตรวจสาเหตุของโรคไตแล้ว อาทิตย์หน้านั้นเราจะมาพูดถึงประเด็นอะไรของโรคไต จะเป็นขั้นตอนการรักษา หรือการเยียวยาอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปได้ในอาทิตย์หน้านะครับ สัปดาห์นี้หมอตี๋ขอไปปลอบใจปิงกี้ต่อละกันนะครับ สวัสดีครับ