โรคของมะแมวที่มากับลมหนาว

ฮ๊าววว หนาว ๆ แบบนี้น่านอนต่อจังงง แนนนี่ชอบจริง ๆ จ้ะเมื่อถึงฤดูหนาว แต่บางครั้งเหล่าเจ้าทาสก็อาจแยกเราไม่ออกระหว่าง มะแมวนอน กับมะแมวป่วยแหละจ้ะ เพราะช่วงหน้าหนาวนี้มะแมวนั้นจะเอาแต่นอนทั้งวัน ขนาดไปกวนก็แล้ว ไปปลุกก็แล้วน้องก็ไม่ยอมลุกง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ ซึ่งถ้าหากสังเกตกันให้ดี ๆ นั้นมีวิธีแยกระหว่างมะแมวขี้เซากับมะแมวไม่สบายเยอะมากเลยนะจ๊ะ เพราะฤดูนี้มีโรคที่น่ากลัวสำหรับมะแมวเยอะ ถ้าน้องเป็นทีก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ รู้ก่อนก็จะช่วยแยกได้นะจ๊ะ

1.อุณหภูมิร่างกายต่ำ

เกิดจากมะแมวสัมผัสกับอากาศเย็น โดยเฉพาะขณะขนเปียกหรือแช่ในน้ำเย็นจึงทำให้อุณหภูมิของร่างกายมะแมวลดลง จึงส่งผลให้การเต้นของหัวใจและการหายใจช้าลง ซึ่งหากรักษาไม่ทันอาจทำให้น้องเสียชีวิตได้เลยนะจ๊ะ !?

–อาการ–
มะแมวจะมีอาการตัวสั่นอย่างรุนแรงเพื่อพยายามให้ร่างกายตัวเองอบอุ่น หูและปลายเท้าของมะแมวจะเย็นกว่าปกติ หากอาการหนาวจัด หากสามารถทำให้เกิดเป็นแผลได้ในบริเวณนี้เลยจ้ะ และมะแมวจะมีอาการซึม การเต้นของหัวใจช้าลง จนถึงขั้นเสี่ยงเสียชีวิตได้เลยนะจ๊ะ ฮื้อออ

–การป้องกัน–
หากช่วงไหนที่อากาศหนาวจัด ต้องพาน้องเข้ามาอยู่ในที่อุ่น ๆ อย่างในบ้านหรือถ้าอยู่นอกบ้านต้องหาที่อบอุ่น แห้ง และลมหรือฝนไม่โดนมะแมว หรืออาจหาชุดมะแมวให้น้องใส่

–การรักษา–
หากมั่นใจว่าตัวมะแมวนั้นมีอาการอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ต้องรีบทำให้ตัวน้องแห้งและอุ่นโดยเร็ว เช่น หาผ้าห่มมาหุ้มตัวน้อง หรืออาจให้ความร้อนจากภายนอก เช่น นำน้ำร้อนใส่ในขวดประคบไว้ และหากว่าอุณหภูมิลดต่ำจนเกิดอาการรุนแรงมากต้องทำการให้สารน้ำอุ่นเข้าทางเส้นเลือด รวมถึงการสวนทวารด้วยน้ำอุ่น แต่วิธีการนี้อาจต้องให้คุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญช่วย ทางที่ดีหากพบว่าน้องผิดปกติมากควรรีบนำน้องไปหาหมอจะดีกว่านะจ๊ะ

2. หวัดแมว (หลอดลมอักเสบ)
เกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งเป็นไวรัสจำเพาะในแมว (FVRC) (FHV) (FCV) นอกจากนี้ยังอาจมีการติดเชื้ออื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งหวัดแมวจะพบบ่อยในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ฤดูหนาว ฤดูฝนจ้ะ

–การติดต่อ–
สามารถติดต่อทางอากาศหรือมะแมวไปสัมผัสกับมะแมวที่ติดเชื้อโดยตรง ซึ่งจะพบมากในบริเวณที่มีมะแมวอยู่รวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อมะแมวตัวไหนป่วยและหายจากโรคแล้วก็ยังสามารถเป็นพาหะนำโรคให้มะแมวตัวอื่น ๆ อีกต่อไปได้จ้ะ

–อาการ–
มะแมวจะมีน้ำตาไหล ไอ มีน้ำมูก ซึม เบื่ออาหาร หายใจลำบาก หากรุนแรงมากก็ถึงขั้นปอดบวมและเยื่อหุ้มปอดอักเสบทำให้เสียชีวิตได้เลยแหละจ้ะ

–การป้องกัน–
ควรพาน้องไปฉีดวัคซีนป้องกันโรค หากมีมะแมวตัวไหนป่วยควรแยกน้องออกจากมะแมวตัวอื่น ๆ และดูแลรักษาความสะอาด เช่น เช็ดขี้มูกขี้ตาอย่าให้เกรอะกรัง ภาชนะใส่อาหารและน้ำต้องสะอาดอยู่เสมอ รวมถึงควรให้ความอบอุ่นต่อร่างกายหากเกิดอากาศหนาวเย็นจ้ะ

–การรักษา–
โรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง จึงต้องรีบพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อวินิฉัยเบื้องต้นก่อนว่ามะแมวป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ โดยจะใช้ยาปฏิชีวนะป้องกันโรคแทรกซ้อนจากแบคทีเรีย รวมทั้งให้ยาลดเสมหะ และวิเคราะห์การรักษาไปตามสภาพของมะแมวแต่ละตัวจ้ะ

เอาล่ะ จากนี้เพื่อน ๆ ก็คงจะเตรียมตัวตั้งรับกับภัยมะแมวที่มาพร้อมกับลมหนาวที่เข้ามาเยือนได้ไม่มากก็น้อย อาทิตย์หน้าปิงกี้และแนนนี่จะนำเรื่องอะไรมาฝากเพื่อน ๆ บ้าง อย่าลืมติดตามกันนะจ้ะ ขอให้สุขภาพดีถ้วนทั่วกันทุกคนต้านลมหนาวกันนะจ๊ะ สวัสดีจ้ะ !