ตั้งแต่โลก social media เข้ามามีบทบาทกับความสะดวกสบายของผู้คน กระแสสัตว์เลี้ยงน่ารักก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น จากการนำเสนอโดยเจ้าของในท่าทางต่าง ๆ ที่น่ารัก ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เกิดความรู้สึกอยากได้อยากมีสัตว์เลี้ยงสักตัวที่น่ารัก น่าทะนุถนอมไว้เป็นเพื่อน อย่างที่คนอื่น ๆ เขามีกัน คุณควรทราบด้วยว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการเลี้ยงดูสิ่งมีชีวิต ก็เท่ากับว่าคุณต้องรับผิดชอบสิ่งมีชีวิตตัวนั้นด้วย
ถ้าคุณพอจะรับมือไหวกับ 9 ข้อต่อไปนี้ สัตว์เลี้ยงตัวน้อยของคุณก็จะน่ารักกับคุณไปนาน ๆ
1. คุณต้องมีความพร้อมด้านค่าใช้จ่าย
การเลี้ยงสัตว์คล้ายกับการเลี้ยงเด็ก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ต่างกันก็คือ ความรับผิดชอบที่ต้องมีให้มันตั้งแต่เด็กไปจนตาย คุณต้องมีความพร้อมด้านการเงินเพื่อดูแลสุขภาพมันตั้งแต่เป็นตัวจิ๋วไปจนถึงวันที่มันตาย, ค่าอาหารแต่ละเดือน, ค่าของเล่นเสริมพัฒนาการของมัน, ค่าอุปกรณ์โดยเฉพาะสำหรับออกนอกบ้าน เป็นต้น โดยสรุปก็คือ คุณต้องพอจะมีเงินเหลือจากค่ากินอยู่ของตัวคุณและครอบครัวคุณ เจียดมาให้พวกมันบ้างไปจนกว่ามันจะตาย
2. คุณต้องมีความพร้อมด้านที่อยู่อาศัย
สัตว์เลี้ยงก็ต้องการพื้นที่เหมือนกับคนเรา แม้บางตัวจะสามารถเลี้ยงระบบปิดได้คุณก็ต้องมั่นใจพอว่าในบ้านของคุณมีพื้นที่ ให้มันได้เคลื่อนไหวไปมาพร้อมเสมอ และที่สำคัญที่สุด คุณต้องมั่นใจด้วยว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะไม่ไปทำความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านคนอื่น ๆ ด้วย
3. คุณต้องมีความพร้อมด้านเวลา
เป็นความคิดที่ผิดสิ้นดีถ้าคุณอยากเลี้ยงสัตว์สักตัวไว้ฟัดเล่นเวลาคุณเหงา สัตว์เลี้ยงก็เหงาเป็นและต้องการความเอาใจใส่จากคุณอยู่เสมอ เพราะมันพูดไม่ได้อย่างคนว่าต้องการอะไร เป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ต้องสังเกตเอาเอง และคอยดูแลในสิ่งที่มันทำเองไม่ได้ เช่น ทำความสะอาดกรง, ใส่ใจด้านโภชนาการ, สังเกตอาการป่วยของมัน
4. คุณต้องพร้อมที่จะไม่เอาผิดมันในบางเรื่อง
แม้ว่ามันจะเชื่องพอที่จะสอนได้ แต่มันก็ยังพูดไม่ได้และยังมีมุมที่ไม่เข้าใจในตัวมนุษย์เราอีกมาก ถ้าข้าวของคุณตกแตกหรือพังเสียหายเพราะมัน หรือมันกระวนกระวายเมื่อเจอคนแปลกหน้า คุณดุได้แต่อย่าลืมมองมาที่ตัวเองด้วยว่า คุณเองก็ผิดที่ไม่จัดระเบียบข้าวของให้เข้าที่เข้าทางเอง และหลงลืมไปว่ามันไม่รู้เรื่องอะไรกับคนมากเท่าใดนัก
5. คุณต้องใจเย็นพอที่จะสอนมัน
มันก็ไม่ต่างกับคนที่ต้องใช้เวลาฝึกเพื่อให้เกิดความชำนาญ อย่าลงโทษโดยใช้ความรุนแรง เพราะนอกจากจะเป็นการทำลายสุขภาพมัน ยังเป็นการกระตุ้นสัญชาตญาณของมันให้ดุร้ายมากกว่าจะเชื่อง
6. คุณต้องมีความรู้ว่าอะไรเป็นของต้องห้ามสำหรับมัน
สัตว์เลี้ยงไม่ได้แข็งแรงมากไปกว่าคน มันก็มีของต้องห้ามที่จะส่งผลต่อสุขภาพมันเหมือนกับที่คนเราแพ้สารอาหารหรือสารเคมีบางอย่าง คุณควรสละเวลาสักนิดในการหาข้อมูลไว้บ้าง
7. คุณต้องมีความพร้อมด้านความสวยงาม (grooming)
ความสวยงามไม่เพียงแต่เสริมลุคให้มันดูดี น่ารักมากขึ้น มันยังส่งผลต่อสุขอนามัยของมันด้วย อย่างน้อยใน 1 เดือนคุณต้องตัดแต่งขน ตัดเล็บ กำจัดเห็บหมัดฯ ยิ่งมันสะอาด คุณก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อที่เกิดกับมันน้อยลง
8. คุณต้องมีความพร้อมพอที่จะดูแลและควบคุมมันได้เมื่อพามันออกไปในที่ต่าง ๆ
เดี๋ยวนี้เริ่มมีหลายโรงแรม หลายสถานที่ที่ต้อนรับสัตว์เลี้ยงอย่างไม่มีปัญหา เป็นหน้าที่ของเจ้าของเช่นกันที่ต้องทำการบ้านมาอย่างดีระหว่างเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ว่าสถานที่แห่งนั้นต้อนรับสัตว์เลี้ยงหรือไม่ ในรถยนต์ส่วนตัวของคุณมีอุปกรณ์พร้อมสแตนบายมันในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ เช่น เบาะนอน, กรง, กระบะทรายแบบพกพา, สายจูง ฯลฯ
9. คุณต้องเผื่อใจไว้ด้วยว่ามันอาจจะไม่น่ารักสำหรับคุณเสมอไป
อย่าคิดจะเลี้ยงมันเพียงเพราะมันรูปร่างหน้าตาน่ารัก คุณต้องรักมัน ดูแลมันโดยที่เผื่อใจไว้แล้วว่าในวันหนึ่งมันอาจเจ็บป่วยจนร่างกายทรุดโทรม ในวันหนึ่งมันอาจพิการด้วยอุบัติเหตุ และในวันหนึ่งมันต้องแก่หงำเหงือกจนไม่น่ารักสวยงาม
สิ่งมีชีวิตไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนแต่มีความสำคัญอยู่เสมอ ไม่มีชีวิตใดที่เกิดมาเพื่อการถูกทอดทิ้ง ทุกชีวิตล้วนแต่ต้องการการพึ่งพิงกันเพื่อความอยู่รอดเสมอ